ประวัติความเป็นมา

โครงการปรับปรุงระบบส่งเสริมการเกษตร จังหวัดเพชรบูรณ์ พ.ศ. ๒๕๒๔

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2504 กระทรวงเกษตรได้เสนอโครงการจัดตั้งกรมส่งเสริมการเกษตร ไปยังคณะรัฐมนตรีแยกเป็น 2 แผน แผนที่หนึ่ง ขอจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการเกษตร ซึ่งถือว่าเป็นแผนขั้นเตรียมการก่อนจัดตั้งกรม คือเตรียมทั้งการวางแผนงาน วางอัตราก าลังคน ปรับปรุงวิชาการ เปลี่ยนทัศนคติเจ้าหน้าที่ ตลอดจนรูปบริหาร และการแก้ไขพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวงทบวงกรม เพื่อจัดตั้งกรมในแผนขั้นที่ สอง คณะรัฐมนตรีก็ได้มีมติเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2504 เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงเกษตรเสนอ

ต่อมาก็ได้มีคำสั่งกระทรวงเกษตรตั้งสำนักงานส่งเสริมการเกษตรขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2505 เพื่อเตรียมการต่างๆ ดังได้กล่าวมาแล้ว และก็ได้ปฏิบัติการในรูปงานส่งเสริมการเกษตรตามแนวใหม่ไปพลางพร้อมกันนั้น ก็ได้รายงาน ผลก้าวหน้าต่อคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งคราว จนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2505 ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณารายงานของสำนักงานส่งเสริมการเกษตรแล้วมีคำสั่งว่าน่าจะตั้งเป็นกรมได้ และได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีได้ทราบ ระยะนี้อธิบดีทุกกรม ก็ต้องรับภาระหนักในการประชุมปรึกษา เพื่อให้ได้สถาบันที่เหมาะสมและทันสมัย และพร้อมที่จะต้องชี้แจงเจ้าหน้าที่วิเคราะห์จากหน่วยงานต่างๆ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ และคณะที่ปรึกษา ระเบียบบริหาร ทั้งระดับอนุกรรมการและกรรมการใหญ่ การแก้ไข ปรับปรุง ชี้แจง โต้ตอบได้ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผลที่สุดก็ผ่านการพิจารณา ของคณะที่ปรึกษาระเบียบบริหาร เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 แต่ให้เรียกชื่อ กรมแพร่ขยายการเกษตร โดยโอนงานส่งเสริมการเกษตรจากทุกกรมใน สังกัดกระทรวงเกษตรมาร่วมอยู่ในกรมนี้ ส่วนเจ้าหน้าที่ให้เรียกพนักงานแพร่ขยายจังหวัดและอำเภอ เมื่อผ่านการพิจารณาของคณะที่ปรึกษาระเบียบบริหารแล้ว ประธานคณะที่ปรึกษา ระเบียบบริหารก็ได้นำเสนอต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี แต่ข้อความในหนังสือชื่อกรมได้เปลี่ยนไปจาก กรมแพร่ขยายการเกษตร เป็นกรมบริการเกษตร ส่วนเจ้าหน้าที่ในส่วนภูมิภาคให้ยุบกสิกรรมจังหวัด – อำเภอ เป็น เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบด้วยในหลักการ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2510

พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 เพื่อขอตั้ง กรมส่งเสริมการเกษตรนี้ ได้เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2510 ที่ประชุมลงมติรับหลักการและได้ประกาศใช้เป็นกฎหมายให้ ตั้งกรมส่งเสริมการเกษตรได้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2510

ซึ่งต่อมากรมส่งเสริมการเกษตรได้มีนโยบายที่จะปรับปรุงระบบส่งเสริมการเกษตรของประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงที่ 1 ระหว่างปี พ.ศ.
2520 – 2524 และช่วงที่ 2 ระหว่างปี พ.ศ. 2523 – 2525 โดยใช้เงินกู้จากธนาคารโลก ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ได้ด าเนินการกู้เงินจากธนาคารตามสัญญากู้ Loan No.1393 – TH สำหรับช่วงที่ 1 และ Loan No. 1752 สำหรับช่วงที่ 2 ซึ่งจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจังหวัดหนึ่ง
ที่เริ่มต้นการด าเนินการตามโครงการปรับปรุงระบบส่งเสริมการเกษตรของประเทศไทย ในช่วงที่ 2 (ปี 2524) โดยระบบดังกล่าวมีหลักการสำคัญ 8 ประการ คือ

  1. จัดให้มีการสนับสนุนด้านสถานที่ทำงาน ที่พักอาศัย ยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ และติดตามงาน
  2. จัดให้มีการทำงานในรูปคณะกรรมการ
  3. จัดให้มีการเพิ่มอัตราก าลังเจ้าหน้าที่
  4. จัดให้มีการอบรมรายปักษ์ของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน
  5. จัดให้มีการเยี่ยมเยียนเกษตรกรเป็นกิจวัตร
  6. จัดให้มีการคัดเลือกและการใช้เกษตรกรผู้นำ
  7. จัดให้มีการจัดทำแปลงทกสอบพืช
  8. จัดให้มีการทำแปลงส่งเสริมพืชเศรษฐกิจ

ซึ่งขอบเขตการทำงานในขณะนั้น (พ.ศ. 2524) มีการดำเนินงานในพื้นที่ 9 อำเภอ 80 ตำบล 761 หมู่บ้าน โดยมีแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญ ได้แก่ วิธีการฝึกอบรมที่ต่อเนื่องกัน และการเยี่ยมเยียนเกษตรกรตามกำหนดเวลาที่แน่นอนและสม่ำเสมอ โดยถืออัตราส่วนเจ้าหน้าที่ส่งเสริมต่อครอบครัวเกษตรกรในสัดส่วน 1 : 1,000 พร้อมจัดให้มีการก่อสร้างอาคารที่ทำการ บ้านพัก สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ ที่ทำการและบ้านพักของเกษตรตำบลด้วย